INDIAN WEDDING
YELLOW HAND & WHITE SANDS
เรา ได้ยินได้ฟังเพลงคาวบอย หรือเพลงคันทรี กันมามากแล้ว สำหรับคนรักคาวบอยจริงๆ จะแยกได้ว่า เพลงแบบใหนคือคันทรี แบบใหนคือคาวบอยแท้ แต่บางคนก็อาจเข้าใจผิดว่า เพลงคาวบอยกับเพลงคันทรีคืออันเดียวกัน เรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้ในกระทู้เก่าๆ แล้วว่า มันต่างกันอย่างไร
บท เพลงคาวบอยคลาสสิก คือเพลงที่สะท้อนถึงชีวิต ความคิด ความรู้สึกและความเป็นอยู่ของคาวบอยที่แท้จริง ซึ่งมีตัวอย่างที่รู้จักกันทั่วไปเช่น Ghost Riders in the Sky Cowboy Night Herd Song บทเพลงคาวบอยเฝ้าวัวยามราตรี The Old Chisholm Trail เส้นทางชิโซล์มเก่า เพลง Saddle Tramp คนจรบนหลังม้า Red River Valley-หุบเขาแม่น้ำแดง I Ride an Old Paint ฉันขี่ม้าด่างแก่ๆ Git Along Little Doggies, Whoopie Ti-Yi-Yo Cattle Call Home On the Range เพลงพวกนี้ผมได้แปลเนื้อ และมี MP3 ให้ดาวน์โหลดไปในกระทู้เก่าๆ หมดแล้ว
นอกจากเพลงคาวบอยแล้ว คนที่พิสมัยวิถีชีวิตแบบตะวันตก น่าจะรู้จักเพลงอินเดียนแดงบ้างเหมือนกัน เพลงอินเดียนแดงยุคแรกๆ ก็เหมือนเพลงพื้นบ้านของเรา คือคล้ายกับนิทาน ที่เล่าถึงชีวิต ความรู้สึกของเขาต่อสังคมรอบข้าง ทำนองง่ายๆ มีเครื่องดนตรีบ้าง ไม่มีบ้าง บางเพลงก็มีทำนองคล้ายๆ เพลงพวกชาวเขาพวกม้ง อีก้อ บ้านเรา
ในระยะ หลังชาวอินเดียนแดงหรือเนตีฟอเมริกันก็พัฒนาไปตามสังคม และรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้าไปเยอะ แต่ก็ยังมีคนที่รักวัฒนธรรมของตนเองอยู่จำนวนหนึ่ง ที่พยายามจะรักษาศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเองเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกศิลปะการร้องรำทำเพลง
ดังนั้นเพลงอินเดียนแดงแบบ เก่าจำนวนไม่น้อยจึงถูกขุดขึ้นมาพัฒนา ใส่เครื่องดนตรีเข้าไป และประยุกต์ให้เข้ากับศิลปะเพลงสมัยใหม่ แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตนเองบางอย่างเอาไว้ และยังมีการแต่งเพลงใหม่ๆ ขึ้นมากอีกมาก เพลงอินเดียนแดงจำนวนไม่น้อยถูกบันทึกเสียงขายและเป็นที่นิยมกันในคน บางกลุ่ม
ทำนองเพลงอินเดียนแดงที่พัฒนาแล้ว จะมีเอกลักษณ์ของเขาเอง ที่เห็นชัดคือจังหวะและกลอง ที่พอจะฟังออกว่ามันเหมือนการเต้นระบำ POW POW ของพวกอินเดียนอยู่บ้าง นอกนั้นก็จะมีเสียงขลุ่ย เสียงเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้
ใน CD ที่ผมทำแจกสมาชิกในงานวันครบของเว็บคาวบอยไทยครั้งที่ 1 ในปี 2007 มีเพลงอินเดียนแดงอยู่ 2 เพลง คือเพลง Indian Wedding และเพลง Seminol Wind ซึ่งไม่ทราบว่ามีใครได้ฟังบ้าง
เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับคาวบอย อินเดียนของเราสมบูรณ์ และให้คนที่สนใจเพลงอินเดียนแดงแต่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ ได้รู้จักความหมาย และทำนองเพลงพวกนี้ไว้บ้าง ผมจึงขอนำเนื้อเพลงอินเดียนแดงสองเพลงนี้มาโพสต์เอาไว้ที่นี่
เริ่มต้นที่เพลง Indian Wedding ก่อนนะครับ
เพลง Indian Wedding มีชื่ออีกอย่างว่า YELLOW HAND & WHITE SANDS
เป็นชื่อของหนุ่มสาวอินเดียนแดงที่รักกัน แปลตรงตัวว่าเจ้าหนุ่ม มือเหลือง กับสาวชื่อ ทรายขาว
เพลง นี้เป็นเพลงเศร้า เกี่ยวกับความรักและสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายที่ชาวอินเดียนแดงอาศัยอยู่ เขียนจากเรื่องเล่าของอินเดียนแดงที่สืบทอดกันมา แต่งเป็นเพลงและบันทึกเสียงโดย รอย ออร์บิสัน (Roy Orbison) ในปี ค.ศ. 1964
เนื้อเพลงที่เล่าถึงความรักของหนุ่ม กับ สาว อินเดียนแดงคู่หนึ่ง ฝ่ายชายชื่อ เยลโล่แฮนด์ หญิงชื่อไวท์แซนด์ ทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานเสร็จ ก็ออกไปฮันนีมูนหาความสุขกันในป่าเขาตามประเพณี
แต่เรื่องเศร้าเกิด ขึ้นท่ามกลางความรักที่ดื่มด่ำปานจะกลืนกินของทั้งสอง เรื่องเป็นอย่างไร ฟังเพลง และอ่านจากเนื่อเพลงที่แปลไว้ได้เลยครับ
คลิกที่เครื่องหมายเล่นเพลงรูปสามเหลี่ยมเพื่อลองฟังดูได้เลยครับ
Indian Wedding (Yellow Hand and White Sand)
C G7
There once was an Indian brave by the name of Yellow Hand
ครั้งหนึ่ง มีอินเดียนแดงผู้กล้า ชื่อ เยลโล่ แฮนด์
C
He fell in love with the maiden known as White Sand.
เขาตกหลุมรักกับสาวอินเดียนชื่อ ไวท์แซนด์
G7
They vowed their love would last forever more
ทั้งสองต่างก็สัญญากันว่าความรักของพวกเขาจะต้องยั่งยืนชั่วนิรันดร์
C
then came the day that they had waited for
แล้วก็ถึงวันที่ทั้งสองต่างรอคอย
Yellow Hand brought her a golden feather
เย็ลโลแฮนด์มอบขนนกสีทองให้เธออันหนึ่ง
White Sands said a prayer for good weather
ไวท์แซนด์สวดมนต์ขอให้สภาพอากาศไม่เล็วร้าย
The ceremonial dance grew loud and strong
พิธีเต้นรำส่งเสียงดังหนักแน่น
Then Yellow Hand began their wedding song.
จากนั้นเยลโล่แฮนด์ก็เริ่มร้องเพลงวิวาห์ของพวกเขา
Chorus:
C G7 C
Oooooooooh Oooh Ooooh
ฮู ฮู ฮู ...
F C
Ooh ooh ooh ooh ooh, ooh ooh
ฮู ฮู ฮู ...
G7
Tonight, tonight, we will be one.
คืนนี้ คืนนี้ เราจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
C
We’ll walk in the land of the midnight sun
เราจะเดินในดินแดงแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน
G7 C D
Oh, White Sand, come hold my lonely hand.
โอ ไวท์แซนด์ มาจับมืออันอ้างว้างโดดเดี่ยวของฉันเถิด
D A7
Then they left the warmth of the wedding fire,
จากนั้น ทั้งสองก็ออกไปจากกองไฟพิธีวิวาห์อันอบอุ่น
D
rode into the hills, climbing higher
ขี่ม้าขึ้นเขาไป สูงขึ้น สูงขึ้น
And suddenly the snow came swirling down
ทันใดนั้น หิมะก็ถล่มลงมา
they were lost, the trail could not be found.
พวกเขาหลงทาง หาทางกลับไม่ได้
Chorus w\ chords D A7 G D .
E B7
They never returned from paradise
พวกเขาไม่ได้กลับมาจากสวรรค์อีกเลย
E
they went to their places in the skies.
ทั้งสองได้ขึ้นไปสู่ที่อยู่ของเขาบนท้องฟ้าแล้ว
And the old ones still say when the snowflakes fly
ผู้เฒ่าผู้แก่ยังคงเล่าขานต่อๆ กันมาว่า เมื่อเกล็ดหิมะโปรยปราย
if you listen close, you will hear him cry.
ถ้าคุณเงี่ยหูฟังให้ดี คุณจะยังได้ยินเสียงเยลโลแฮนด์คร่ำครวญ
Chorus w\ chords E B7 A E
C G7 C
Oooooooooh Oooh Ooooh
ฮู ฮู ฮู ...
F C
Ooh ooh ooh ooh ooh, ooh ooh
ฮู ฮู ฮู ...
G7
Tonight, tonight, we will be one.
คืนนี้ คืนนี้ เราจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
C
We’ll walk in the land of the midnight sun
เราจะเดินในดินแดงแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน
G7 C D
Oh, White Sand, come hold my lonely hand.
โอ ไวท์แซนด์ มาจับมืออันอ้างว้างโดดเดี่ยวของฉันเถิด
by: José Duarte
jtduarte1@gmail.com
THEN THEY LEFT THE WARMTH OF THE RAGING FIRE.
THEY RODE INTO THE HILLS, CLIMBING HIGHER.
AND SUDDENLY THE SNOW CAME SWIRLING DOWN,
THEY WERE LOST, THE TRAIL COULD NOT BE FOUND.
THEY NEVER RETURNED FROM PARADISE,
THEY WENT TO THEIR PLACES IN THE SKY.
THE OLD ONES SAY WHEN THE SNOWFLAKES FLY,
IF YOU'LL LISTEN CLOSE YOU'LL HEAR HIM CRY.
จากนั้น ทั้งสองก็ออกไปจากกองไฟพิธีวิวาห์อันอบอุ่น
ขี่ม้าขึ้นเขาไป สูงขึ้น สูงขึ้น
ทันใดนั้น หิมะก็ถล่มลงมา
พวกเขาหลงทาง หาทางกลับไม่ได้
พวกเขาไม่ได้กลับมาจากสวรรค์อีกเลย
ทั้งสองได้ขึ้นไปสู่ที่อยู่ของเขาบนท้องฟ้าแล้ว
ผู้เฒ่าผู้แก่ยังคงเล่าขานต่อๆ กันมาว่า เมื่อเกล็ดหิมะโปรยปราย
ถ้าคุณเงี่ยหูฟังให้ดี คุณจะยังได้ยินเสียงเยลโลแฮนด์คร่ำครวญ
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|