www.cowboylifeandsong.com

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
Home เพลงคาวบอย&อินเดียน เพลง Riding For the Brand คุณธรรมคาวบอยที่ผู้บริหารวันนี้โหยหา

เพลง Riding For the Brand คุณธรรมคาวบอยที่ผู้บริหารวันนี้โหยหา

อีเมล พิมพ์ PDF
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด 
RidingForTheBrand_bookเพลง Riding for the Brand (ขี่ม้าเพื่อตราของเรา)
คลิ๊กเพื่อฟัง sample ของ Laryd Lane

คาวบอยสมัยก่อน  คือคนรับจ้างขี่ม้าต้อนวัว  ที่เร่ร่อนรับจ้างเลี้ยงชีพไปตามคอกม้าและไร่ปศุสัตว์เลี้ยงวัวตามที่ต่างๆ อาจมีการย้ายจากไร่หนึ่ง ไปไร่หนึ่ง  ด้วยเหตุผลนานา เช่น เพราะอยากไปเห็นภูมิประเทศใหม่ที่ยังไม่เคยไป หรือเพราะอยากกลับไปเจอเพื่อนเก่า และเมืองที่เคยชื่นชอบ การเปลี่ยนงานจากที่หนึ่ง ไปที่หนึ่ง  จึงเป็นเรื่องปกติ  แต่สิ่งที่เจ้าของไร่ปศุสัตว์และคาวบอยที่อยู่ในแต่ละไร่ให้ความสำคัญสูงสุด คือการจงรักภักดีต่อกลุ่มหรือพรรคพวกในไร่ที่เขากำลังทำงานอยู่ ซึ่งเรียกกันว่าต้อง riding for the brand โดยหากแปลตรงตัวก็จะแปลว่า "ขี่ม้าเพื่อตราของไร่" เนื่องจากแต่ละคอกจะมีตราที่ปั๊มบนตัวสัตว์ของตัวเอง เป็นเครื่องหมายการค้า อีกนัยหนึ่งก็คือ "ขี่ม้าตราใดก็ต้องจงรักภักดีต่อตรานั้น" เป็นสำนวนที่ปัจจุบันนี้ นักบริหารระดับสูงอเมริกัน มักใช้ย้ำถึงความภักดีต่อองค์กรของพนักงานเสมอๆ  แปลให้เข้าสำนวนร่วมสมัยก็คือ "ต้องมีความจงรักภักดีต่อองค์กร"  ซึ่งทุกองค์กร คงต้องการบุคลากรแบบนี้ทั้งนั้น

มัคนทำวิดีโอ ถ่ายทอดความคิดนี้ในเชิงธุรกิจไว้บน youtube  ผมจำคำพูดของคนบรรยายได้ประโยคหนึ่งที่ประทับใจมาก คือที่ว่า "cowboy has a choice, he can simply ride for a wage, or he could ride for the brand" แปลว่า คาวบอยเลือกได้ ว่าจะทำงานเพียงเพื่อค่าจ้างเท่านั้น หรือเพื่อองค์กรที่เขาทำงานอยู่

ไปที่ youtube แล้วค้นหา Riding For the Brand.mp4 ครับ เขาไม่ยอมให้โพสต์ต่อ

Uploaded by on Mar 30, 2011

A corporate video shot & edited for United Supermarkets.
This was shown at a Leadership Event in Frisco.

ก่อนอื่น มาดูเนื้อเพลงตัวอย่างกันก่อน  เขาถ่ายทอดได้ดีทีเดียว ว่า คาวบอยแท้คนหนึ่ง มีความคิด และเป็นอยู่อย่างไร  เป็นสุดยอดความรับผิดชอบของคนงานที่ผู้บริหารทุกคน ใฝ่ฝันอยากได้แน่นอน

Riding For The Brand
Written by: Jaryd Lane, Chris Faulk, Hunter Davis

http://www.myspace.com/jarydlane/music/albums/riding-for-the-brand-17111331

(Verse 1)
You'll find him in a barn before sunup· ·
คุณจะเห็นเขาอยู่ที่โรงนาก่อนตะวันขึ้น
Out working and doing chores·
ออกไปทำงานคาวบอย และงานจุกจิกที่น่าเบื่อ
He says there ain't nothing better·
เขาบอกว่า ไม่มีอะไรดีกว่านี้
For the inside of a man· ·
เพื่อสิ่งที่อยู่ภายในของคน
Than the outside of a horse
มากกว่าสิ่งภายนอกของม้า (สำนวน คงแปลว่า ทำด้วยใจของตน มากกว่าเพราะมีสิ่งข้างนอกบังคับให้ทำ)

He knows breaking broncs and stretching fences
เขารู้ว่า การปราบม้าป่า และการล้อมรั้ว
Is good for a mans heart and for his hands
มันดีสำหรับหัวใจคนและมือของเขา
Hardwork never killed nobody
งานหนักไม่เคยฆ่าใคร
Just a part of riding for the brand
แค่เป็นส่วนหนึ่งของ “การขี่ม้าเพื่อตราของเรา

(Chorus)
He gave more than just enough
เขาให้มากกว่าที่ควรให้
More than just a little bit of his
มากกว่าที่ว่าเพียงเล็กน้อยของเขา
Two hard working tanned up leathered hands
สองมือที่ทำงานหนักจนคล้ำเหมือนหนังสีน้ำตาล
He'd say cowboy up lets roll and
เขาว่า “คาวบอย· สู้ๆ !”· ไปกันเถอะพวกเรา
Take it like a man,
สู้มันอย่างลูกผู้ชาย
Riding For The Brand
ขึ้นขี่ม้าเพื่อตราของเรา

Back in the summer of 85' when the cancer took his Amy
เมื่อฤดูร้อนปี 85 เมื่อมะเร็งเอา แอมมี ไปจากเขา
His whole world came crashing down
เหมือนโลกทั้งหมดของเขาล่มสลายลง
But the fields he kept mending
แต่เขายังคงดูแลทุ่งเลี้ยงสัตว์ต่อไป
And the cattle he kept tending
และก้มหน้าเฝ้าดูแลเลี้ยงดูฝูงวัวต่อไป
Even when his tears fell to the ground
แม้ตอนที่น้ำตาของเขาร่วงลงดิน

He told me hard times hell they come and they go
เขาบอกผมว่า เวลาแห่งความยุ่งยากดุจนรกมาแล้วก็จากไป
But me I stay right where I stand
แต่ฉันจะอยู่ตรงที่ฉันยืนนี้ตลอดไป
Cause ups and downs are part of living
เพราะการขึ้น การลง เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
Just a part of riding for the brand
แค่ส่วนหนึ่งของ การขี่ม้าเพื่อตราของเรา

(Chorus)

Now my ole pard he died a working
ตอนนี้เพื่อนเก่าของผมจากไปแล้วขณะยังทำงาน
Guess his heart done had
หวังว่าเขาได้ทำทุกอย่างที่ใจเขา
about all it could stand
ได้ยืนหยัดไว้แล้ว
I carved his name in marble
ผมสลักชื่อเขาบนหินอ่อน
The date the month the year
วันที่และเดือนของปี
And buried him on chapel hill
และฝังเขาไว้ที่เนินเขาริมโบสถ์
to over look the land
เพื่อจะได้มองเห็นผืนดินแถวนี้ตลอดไป

Now Lord I've been schooled on your ways
โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าน้อยได้เรียนรู้วิถีของพระองค์
How you're fair and how you're grand
ได้รู้ว่าท่านยุติธรรมและยิ่งใหญ่อย่างไร
So of him I know you'll take good care
ดังนั้นข้าน้อยจึงรู้ว่า พระองค์คงดูแลเขาอย่างดี
Cause now he's Riding For Your Brand
เพราะขณะนี้ เขาขี่ม้าเพื่อตราของพระองค์แล้ว

ที่มาของสำนวนนี้ มาจากความจริงที่ว่า ไร่ปศุสัตว์ทุกแห่ง จะมีตราของตัวเอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ หรือยี่ห้อ ของไร่  มีการจดทะเบียนตราไว้เป็นหมื่นๆ ตรา  และจะใช้เหล็กร้อนปั๊มเป็นรอยแผลเป็นไว้ที่ตะโพกของวัว หรือม้า เพื่อเป็นเครื่องหมายถาวรว่า ม้าตัวนี้ วัวตัวนี้ ของใคร เพราะเวลาปล่อยออกไปหากินอย่างอิสระ อาจไปปะปนกันได้  ดังนั้น เมื่อถึงฤดูกาลต้อนวัวรวมกลุ่ม(round up) เขาก็จะดูตราพวกนี้เป็นสำคัญ

ตราของไร่ปศุสัตว์บางแห่ง  และคำอ่าน แสดงในรูป คงเห็นคำอ่านเขาน่าสนใจนะครับ อย่างเช่น รูปตัว J นอนหงายบนตัว T เขาก็อ่านว่า Lazy J Hanging T แปลว่า เจขี้เกียจ ทีห้อย

สมุดจดทะเบียนตราไร่ปศุสัตว์ รัฐไวโอมิง มีตราเป็นหมื่นตรา โปรดสังเกตุรายละเอียดที่เขาเขียนไว้มีรูปวัวตีตราด้วย และข้อความอื่นๆ

ตัวอย่างตราที่ปั๊มไว้บนสะโพกม้า

คาวบอยที่ดี ต้องไม่ต้อนวัวที่มีตราของคนอื่นไปเป็นของตน ถ้าพบแล้วต้องไล่กลับไปส่งเจ้าของ

ม้า ที่คาวบอยใช้ต้อนวัว ก็คือม้าของไร่นั้นๆ ซึ่งมีตราของไร่อยู่ คาวบอยเร่ร่อนจะรักษาม้าตนเองไว้อย่างดีที่สุด ไม่ได้ใช้ขี่ต้อนวัวถ้าไม่จำเป็นจริงๆ  ดังนั้น งานต้อนวัวประจำวันจึงนิยมใช้ม้าที่ทางไร่เขาเตรียมไว้ให้คนงานของเขา เพราะมันต้องเปลี่ยนม้าบ่อยๆ ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง  ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า ใครทำงานให้ไร่ไหน ก็ดูจากตราที่สะโพกม้า

เมื่อขี่ม้าตราใดแล้ว ก็ต้องซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อไร่ หรือพรรคพวกในไร่นั้น ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน  คาวบอยจะให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก คือเมื่อทำงานให้ใครอยู่ คือขี่ม้าตราใด ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อตรานั้น ใครทรยศต่อตรานั้น ก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่า หรือ black list กลายเป็นคาวบอยไร้ศักดิ์ศรี

ด้วยเหตุนี้  riding for the brand จึงเป็นคุณธรรมที่สำคัญมากของคาวบอยอย่างหนึ่ง  นายจ้าง และเพื่อนร่วมงาน จะเชื่อถือคาวบอยมากน้อย ก็ตรงนี้ ใครได้ชื่อว่า riding for the brand ก็จะได้รับการยกย่องนับถือ ไว้เนื้อเชื่อใจได้ ว่า เมื่อเขาเข้ากลุ่มไหนแล้ว เราหวังพึ่งเขาได้ เขาจะไม่ทรยศต่อกลุ่ม

หลุยส์ ลามู นัก เขียนนิยายคาวบอยผู้มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าคนหนึ่ง ได้นำคุณธรรมนี้มาเขียนเป็นเรื่องสั้นไว้ตอนหนึ่ง และรวมเล่มไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า Riding for the Brand  ที่หน้าหนึ่งของหนังสือ เขาเขียนอธิบายไว้ว่า

ผมขอถอดความมาให้อ่านกัน ดังนี้

คำว่า “riding for the brand” เป็นคำที่แสดงถึง ความจงรักภักดีของนายจ้าง หรือ กลุ่มคน หรือ พวกใดพวกหนึ่ง (outfit แปลว่า พวก หรือกลุ่ม เช่น พวกคาวบอยไทย ... อิอิ..) ที่พวกเขาขี่ม้าทำงานให้  เป็นข้อความที่ได้รับการพิจารณาว่า เป็นของกำนัลสูงสุด จากสังคมที่เกือบจะเป็นระบบเจ้าขุนมูลนาย(ยุคคาวบอย)   ถ้าใครไม่ชอบไร่ปศุสัตว์ใด(ในยุคนั้น)  หรือไม่ชอบลักษณะที่เจ้าของไร่ปฏิบัติต่อเรื่องราวต่างๆ ในไร่นั้น  เขามีอิสระที่จะลาออกและจากไป  และคาวบอยจำนวนมากทำเช่นนั้น  แต่ถ้าเขายังอยู่ เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์และปกป้องพวกเดียวกัน (หลุยใช้คำว่า loyalty แปลว่า ซื่อสัตย์และจงรักภักดี) และคาดหวังจากคนอื่นๆ เช่นเดียวกัน

ไม่ค่อยมีใครตัดสินคนจากอดีตของ เขา(ในสังคมคาวบอยยุคนั้น) นอกจากดูจากการกระทำของเขา( ณ เวลานี้)  คนที่เดินทางไปตะวันตกส่วนมาก ได้ทิ้งอดีตมากมายไว้ข้างหลังซึ่งเขาอยากจะลืม  ดังนั้นจึงถือเป็นธรรมเนียม ที่จะไม่ถามถึงอดีตของคาวบอย   สิ่งที่เขาเคยทำมาส่วนใหญ่จะถูกยกโทษให้ ถ้าเขามีความกล้าและซื่อสัตย์มั่นคง และทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่  ถ้าคาวบอยคนใดทำงานไม่เต็มฝีมือสูงสุดของเขา  บางคนก็จะต้องเข้าไปชดเชยงานที่ย่อหย่อนบกพร่องของเขา ซึ่งจะทำให้คนเช่นนี้ไม่เป็นที่ชื่นชมของคนทั่วไป


มีคนแต่งเพลงชื่อนี้ไว้หลายเพลง  แต่ที่ผมชอบมาก และหาเนื้อเพลงได้ คือเพลงตัวอย่างที่แสดงอยู่ข้างล่างนี้ครับ แต่งโดย Jaryd Lane, Chris Faulk, Hunter Davis ในอัลบัมชื่อ Riding for the Brand ฟังเพลงตัวอย่างได้ที่

http://www.myspace.com/jarydlane/music/albums/riding-for-the-brand-17111331

ปกอัลบัม

เนื้อเพลงแปลไว้แล้วตนต้นบทความนี้ ลองอ่านดูจะเห็นว่า เขาสื่อความหมายของคาวบอยที่มีลักษณะแบบ Riding for the Brand ได้ดีทีเดียวครับ


เรื่อง Riding for the Brand ของหลุยส์ ลามู นี้ บางท่านอาจเข้าใจผิดไปหยิบหนังสือเรื่อง Riding for the Brand ที่เขียนโดย Michael Pettit  มาอ่าน  สองเล่มนี้เป็นหนังสือคนละประเภทครับ  ของหลุยส์ เป็นนิยายคาวบอย ที่ตัวละครเป็นคาวบอยจริงๆ ที่ทำงานในไร่ปศุสัตว์  เรื่องราวตื่นเต้นสนุกสนานตามแบบคาวบอย ถึงขนาดฟาดปากกับหัวหน้าคาวบอยในไร่  แต่เขาก็ยังรับผิดชอบงานจนสำเร็จ  ยังจงรักภักดีต่อไร่ ต่องานของเขาเช่นเดิม

แต่ของไมเคิล เพ็ตติต เป็นเรื่องเล่าเกล็ดประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับการทำไร่ปศุสัตว์ในเท็กซัสย้อนหลังไป 150 ปี ตั้งแต่ปี 1850  เล่มนี้ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยโอกลาโอมาปี 2006 ซึ่งส่วนใหญ่กล่าวถึงครอบครัวปศุสัตว์ตระกูลโควเด็น(Cowden) ซึ่งตั้งรกรากเลี้ยงวัวมา 150 ปีแล้ว ปัจจุบัน Cowden Ranch มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์ถึง50,000 เอเคอร์ (125,000 ไร่   อื้อฮือ ขอสัก 1 ใน 1000 มิได้หรือ....) โดยผู้เขียนก็เป็นเชื้อสายของตระกูลนี้คนหนึ่ง และหนังสือเล่มนี้ได้รางวัลยอดเยี่ยม Best Southwest History ของรัฐนิวเม็กซิโกเมื่อปี 2007 นี้เอง ล่ำลือกันว่า เป็นหนังสือที่รวบรวมประวัติศาสตร์คาวบอยและไร่ปศุสัตว์ได้ดีมาก มีทั้งรูปประกอบ และเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม  รูปของผู้เขียน และรูปคาวบอยพวกแจล (JAL Outfit) ยุคปี 1895 รูปหนึ่งที่ใช้ประกอบในหนังสือนี้แสดงอยู่ข้างล่าง  เป็นหนังสือที่น่าอ่านเล่มหนึ่ง ผมซื้อมาอ่านแล้วครับ

รูปของ ไมเคิล เพ็ตติท

รูปของพวก JAL Outfit ถ่ายเมื่อปี 1895

ปกหนังสืออยู่รูปสุดท้าย[/size]

 

สมาชิกเท่านั้นที่เขียนวิจารณ์เรื่องนี้ได้

Cowboy Life & Songs ยินดีต้อนรับ

NWRavatar_3Howdy!

Welcome to Cowboy Life & Songs website. We created this website to be a place for sharing of information and knowledges about old and new western life styles, philosophies, and experiences. We welcome Thais and international friends. Please enjoy your visit.

wayne300

ยินดีต้อนรับสู่ Cowboy Life and Songs, เราสร้างเว็บนี้เพื่อให้เป็นที่เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ความคิดเห็น ปรัชญาชีวิต และประสบการณ์ ที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตแบบคาวบอยตะวันตก หรือวิถึชีวิตยุคปัจจุบันที่คล้ายกับยุคตะวันตก เพื่อให้ง่ายต่อการการอ่านและค้นหาเนื้อหาสาระ โดยใช้ระบบ Content Management System หรือ CMS ที่แตกต่างจากระบบ Webboard ทั่วไป

เราอยากให้เว็บนี้เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับผู้รักวิถีชีวิตที่ตื่นเต้นผจญภัยแบบตะวันตก ยุคที่คาวบอย อินเดียนแดงยังใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ พึ่งพาตนเองด้วยการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ เพื่อช่วยให้คนทั่วไปได้รู้จักกับวิถีชีวิตแบบพอเพียงที่เคยมีมาแล้วในอดีต เรียนรู้ความผิดพลาดที่ความบ้าคลั่งในผลผลิตเกินพอ ได้ทำให้สังคมตะวันตกในอเมริกา กลายเป็นระบบอุตสาหกรรมที่ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถนำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับยุคอุตสาหกรรมข่าวสารในปัจจุบัน เป็นการช่วยรักษาโลกนี้ให้ยั่งยืน โดยไม่เน้นแค่ผลผลิตและเงินตราว่าเป็นสิ่งวัดคุณค่าของมนุษย์มากจนลืมอนุรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม

เว็บไซต์นี้มีระบบการทำงานหลักอยู่ 2 ส่วนคือ บทความ และ กระดานข่าว (Cowboy Forum) ส่วนบทความมีไว้เพื่อให้สมาชิกได้เขียนบทความที่เป็นสาระประโยชน์ค่อนข้างยาว โดยจะมีพื้นที่ให้ผู้อ่านเขียนแสดงความคิดเห็นไว้ตอนท้าย มีระบบบรรณาธิการคอยตรวจสอบบทความก่อนขึ้นเว็บเหมือนหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ส่วนกระดานข่าว มีไว้เพื่อให้สมาชิกได้ตั้งกระทู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างอิสระ แต่โปรดระวังให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย พ.ร.บ. ข่าวสารข้อมูลและคอมพิวเตอร์ 2550 ซึ่งสรุปได้ง่ายๆ คือ ต้องไม่ให้ร้ายป้ายสี ดูหมิ่น ทำให้ผู้อื่นเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม

เนื้อหาในเว็บนี้ ส่วนหนึ่งคือกระทู้ที่ผมเขียนไว้ที่ www.cowboythai.com  ซึ่งบางกระทู้สูญหายไป ที่เหลือก็กระจายอยู่ในหลายบอร์ด บอร์ดเก่าปิดไม่ให้เข้าไปปรับปรุงแก้ไข(แยกเป็น 4 บอร์ดแล้วในขณะนี้) ซึ่งคงเป็นเพราะทางเว็บเน้นเรื่องการเป็นศูนย์กลางของการพบปะสังสรรค์ของชุมชนมากกว่า และก็เป็นจุดเด่นของเว็บนั้นจนทำให้เราได้รู้จักกันมากมายทั่วประเทศ  แต่ระบบเว็บบอร์ดแบบนั้น ไม่เหมาะในการเก็บรักษาบทความที่มีเนื้อหาสาระยาวๆ ที่ต้องการให้ถูกต้องแม่นยำ  ผมจึงต้องทำเว็บนี้ขึ้นมาอีกแห่งหนึ่ง หวังเพื่อช่วยเสริมในส่วนที่ขาดไปและเป็นการแยกบทความยาวๆ ไม่ให้ไปรบกวนผู้ที่ไม่ชอบอ่าน  

เหนืออื่นใดก็คือ ต้องการรวบรวมบทความด้านนี้ไว้ให้ง่ายแก่การค้นหา และทำการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ถูกต้องและมีเนื้อหามากขึ้น ตามข้อมูลที่ถูกค้นพบเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ไม่ใช่บทความแบบ static คือเขียนครั้งเดียวได้แค่ไนก็แค่นั้นแบบในหนังสือกระดาษที่ล้าสมัยไปแล้ว ผมต้องการให้เหมือนกับเป็นพจนานุกรม วิกกี้พิเดียภาษาไทย ทางด้านนี้ 

อย่างไรก็ตาม เราขอเชิญทุกท่านที่สนใจในแนวเดียวกัน มาช่วยกันเขียนบทความ  เขียนวิจารณ์แสดงความคิดเห็น   เพื่อช่วยกันเผยแพร่และรักษาไว้ซึ่งวิถีชิวิตที่เป็นความฝันของเรา ไม่ว่ามันจะเป็นจริงได้หรือไม่ก็ตาม  โดยท่านที่มี e-mail สามารถลงทะเบียนเป็นสมาชิกได้เลย ซึ่งท่านจะได้สิทธิเป็น "นักเขียน" ในขั้นต้นสำหรับบทความก่อน และจะมีบรรณาธิการช่วยตรวจสอบ และนำขึ้นตีพิมพ์ในเวลาไม่นาน  ส่วนกระดานข่าว สิ่งที่ท่านเขียน จะถูกตีพิมพ์ขึ้นเว็บทันทีเหมือนเว็บบอร์ดทั่วไป

เหตุจูงใจให้ผมชอบคาวบอยและอินเดียนแดง
คาวบอย และอินเดียนแดงในอดีต เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก เพราะเขามีจิตสำนึกและหลักธรรมนำชีวิตที่ดี จนมีคนรวบรวมไว้เป็นบัญญัติ 10 ประการของอินเดียนและคาวบอย ดังนี้

10Commandments

บัญญัติ 10 ประการของอินเดียนแดง
  1. จงปฎิบัติต่อโลกและทุกสิ่งที่อยู่บนโลกด้วยความเคารพ
  2. จงใกล้ชิดวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ตลอดเวลา(เทียบเท่ากับ พระเจ้า ของชนอเมริกัน พื้นเมือง)
  3. ให้ความเคารพสูงสุดต่อสิ่งมีชีวิตร่วมโลก 
  4. ร่วมกันทำงาน เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติโดยรวม
  5. ให้ความช่วยเหลือและเมตตาในทุกแห่งที่มีผู้ต้องการ
  6. ทำในสิ่งที่คุณรู้ว่าถูกต้อง
  7. ดูแลจิตใจและร่างกายให้ดีเสมอ
  8. อุทิศแบ่งปันความพยายาม เพื่อสิ่งที่ดีกว่า  
  9. จงจริงใจและซื่อสัตย์ตลอดเวลา
  10. รับผิดชอบการกระทำของตัวเองทุกประการ
บัญญัติ 10 ประการของคาวบอย
  1. คาวบอยต้องไม่ยิงก่อน ไม่ชกต่อยคนที่ตัวเล็กกว่า ไม่เอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม
  2. คาวบอยต้องไม่กลับคำพูด หรือทำลายความไว้วางใจที่ผู้อื่นมอบให้
  3. คาวบอยต้องรักษาสัตย์
  4. คาวบอยต้องอ่อนโยนต่อเด็ก คนแก่ และการุณต่อสัตว์ทั่วไป
  5. คาวบอยต้องไม่สนับสนุนหรือมีความคิดในการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์หรือศาสนา
  6. คาวบอยต้องช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อนทุกข์ยาก
  7. คาวบอยต้องเป็นคนรับจ้างหรือคนงานที่ดี
  8. คาวบอยต้องมีความสะอาดทางความคิด คำพูด การกระทำ และนิสัยส่วนตัว
  9. คาวบอยต้องให้เกียรติ์ผู้หญิง เคารพพ่อแม่ และเคารพกฎหมาย
  10. คาวบอยต้องเป็นผู้รักชาติ
โดยนัยนี้ เว็บนี้ต้องการเผยแพร่หลักธรรมนำชีวิตที่ดีตามแนวพอเพียงแบบตะวันตก ซึ่งไม่ขัดแย้งกับคำสอนของศาสนาใดๆ รวมทั้งลักษณะของคุณธรรม น้ำมิตร ความวิริยะพากเพียร ในการต่อสู้ด้วยลำแข้งของตนเอง เพื่อดำรงชีวิตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย ซึ่งเราก็ไม่อาจทราบได้ว่า จากปัญหา global warming และการทำลายธรรมชาติอย่างหนักขณะนี้ ในอนาคต สภาพแวดล้อมทั่วโลกอาจหวนกลับไปเป็นแบบดินแดนกันดารในยุคตะวันตกก็ได้
เว็บนี้ไม่หวังผลทางการค้า เราหวังเพียงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่ต้องการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามในสังคม ในแนวทางผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยกับตะวันตก
 

ลงชื่อเข้าใช้ระบบ (Login)

สมาชิกเท่านั้นที่มีสิทธิ์โพสต์ข้อความในกระดานสนทนา เขียนและวิจารณ์บทความ โปรดล็อกอิน ถ้าไม่ใช่สมาชิกลงทะเบียนเป็นสมาชิกได้เลยครับ เมื่อ Login ท่านจะได้รับ ReCAPTCHA Text Error. ให้ลงไปดูด้านล่าง จะมีหน้าต่างให้ป้อนตัวเลขหรือตัวหนังสือจากภาพ 2 ภาพ ให้ป้อนให้ครบทุกตัวตามรูป แล้วคลิกที่ "เข้าสู่ระบบ" เป็นระบบป้องกันการล๊อกเข้าระบบโดย robot ของพวก hacker ครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยือน Cowboy Life & Songs ขอให้สนุกกับบรรยากาศตามแบบของคนมีใจคาวบอยใน western style ครับ

Who's Online

เรามี 1885 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

Cowboy Commics

ปืนเหนือปืน

คลิ๊กที่ภาพเพื่ออ่านได้เลยครับ

InventionOfAGunFighter-1-ss

นิยายภาพสร้างจากหนังทีวีซีรี่อเมริกันคาวบอยที่คนนิยมมากที่สุด "โบนันซ่า" ซึ่งฉายต่อเนื่องกันนานถึง 14 ปี จาก 12  ก.ย. 1959 - 16 ม.ค. 1973  นี่เป็นตอนหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า ธาตุแท้ของลูกผู้ชายใจคาวบอยตัวจริง ควรเป็นอย่างไร

นี่คือเรื่องราวที่เป็นความฝันของคนรักคาวบอยจำนวนมาก ตัวละัครเอกคือคนในครอบ ครัวปศุสัตว์ "พอนเดอโรซ่า" ที่เป็นไร่ปศุสัตว์อันกว้างใหญ่ไพศาล มีทั้งทุ่งหญ้า ป่าไม้ ภูเขาและทะเลสาบ กินอาณาบริเวณประมาณ 1,000 ตารางไมล์ หรือประมาณ 2,900 ตารางกิโลเมตร (ประมาณเท่ากับจังหวัดเชีียงใหม่ทั้งจังหวัด) ซึ่ง เบ็น คาร์ตไรต์ คือผู้เข้ามาจับจองและบุกเบิกกับลูกชาย 3 คน อาชีพหลักของครอบครัวนี้คือ เลี้ยงวัวหลายหมื่นตัว และทำป่าไม้ในที่ดินของตนเอง พวกเขาคือคาวบอยตัวจริงในความฝันของคนที่ชอบหนังแนวคาวบอยจำนวนหลายล้านคนทั่วโลก  

 

การ์ตูนคาวบอย Have Gun Will Travel ตอน โจรจำเป็น

ดาวโหลด e-book เรื่อง โจรจำเป็น

******************

การ์ตูนคาวบอย Gene Autry
ตอน The Ghost Outlaws(โจรผี)

 

ดาวโหลด e-book เรื่อง โจรผี

******************

Gunsmoke ตอน ขนเหยี่ยว

ดาวน์โหลด e-book เรื่อง ขนเหยี่ยว

******************

Lawman ตอน The Deputy
(ผู้รักษากฎหมายตอนผู้ช่วยนายอำเภอ)

ดาวน์โหลด e-book เรื่อง Lawman ตอน The Deputy
(ผู้รักษากฎหมายตอนผู้ช่วยนายอำเภอ)

ดาวโหลดโปรแกรมอ่าน e-book ได้ที่นี่ http://comicrack.cyolito.com/