บัญญัติ 10 ประการจากโบสก์คาวบอย
นอกจากมีบัญญัติ 10 ประการของคาวบอยที่ จีน ออทรี รวบรวมไว้แล้ว ยังมีโบสก์หลายแห่ง ที่พยายามเผยแพร่ศาสนาในรัฐตะวันตกของอเมริกา ได้พยายามจะอ้างเอาบัญญัติ 10 ประการ ที่บัญญัติทางศาสนาคริสต์ ให้พวกคาวบอยยึดถือเป็นหลักนำชีวิต และคงเห็นว่า สไตล์ชีวิตแบบตะวันตก เป็นที่สนใจของชาวอเมริกันกลุ่มใหญ่ จึงได้พยายามปรับรูปแบบการสอน และโบสก์ ให้เป็นลักษณะยุคตะวันตก หลวงพ่อที่สอน ก็แต่งหมวกคาวบอย และพยายามส่งเสริมกีฬาคาวบอย เพื่อดึงดูดผู้คนไปด้วย เช่น การแข่งโรดิโอ การแข่งขันขี่ม้ายิงปืนแบบคาวบอย
และยังตั้งชื่อโบสก์แนวนี้ว่า โบสก์คาวบอย หรือ Cowbboy Church ด้วย ข้อเขียนข้างล่างนี้ ผมเขียนไว้นานแล้ว เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2007, 05:09:09 am » ที่ www.cowboythai.com
บัญญัติ 10 ประการของคาวบอยที่โบสก์คาวบอยยกมานี้ เป็นการแปลบัญญัติ 10 ประการจากไบเบิ้ลฉบับใหม่ของ King James ซึ่งเขียนขึ้นในปี 1611 ให้เป็นภาษาพื้นบ้านของคนเท็กซัส โดยมีเอกสารปรากฏอยู่ที่เว็บไซต์ http://www.markwilliams.net/cowboy.html ซึ่งเป็นของช่างภาพของหนังสือพิมพ์ USA Today ผู้หนึ่ง ความว่า
THE TEN COMMANDMENTS - TEXAS STYLE
People here in Texas have trouble with all those shalls and shall nots
in the 10 Commandments. Folks here just aren't used to talking in
those terms. So, some folks out in west Texas got together and
translated the "King James" into "King Ranch" language: Ten
Commandments, cowboy Style.
Cowboy's Ten Commandments posted on the wall at Cross Trails Church in
Fairlie, Texas.
(1) Just one God.
เจ้าต้องนับถือพระเจ้าเพียงคนเดียว
(2) Put nothin' before God.
ไม่มีสิ่งใดเหนือพระเจ้า
(3) Watch yer mouth.
ต้องระวังปากไว้มั่ง
(4) Git yourself to Sunday meeting.
ต้องไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์
(5) Honor yer Ma & Pa.
ต้องนับถือพ่อ แม่
(6) No killin'.
ต้องไม่ฆ่า
(7) No foolin' around with another fellow's gal.
ไม่ล่วงเกินสาวของคนอื่น
( Don't take what ain't yers.
อย่าเอาสิ่งของที่ไม่ใช่ของๆ เจ้า
(9) No telling tales or gossipin'.
อย่านินทาว่าร้าย
(10) Don't be han kerin' for yer buddy's stuff.
อย่าจิ๊กของๆ เพื่อน
แปล เป็นไทยได้ว่า “คนที่เท็กซัสนี่มีปัญหาเกี่ยวกับคนที่ปฎิบัติตาม หรือไม่ปฎิบัติตามบัญญัติ 10 ประการ ชาวบ้านแถวนี้ไม่คุ้นเคยกับการพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้น คนกลุ่มหนึ่งในเท็กซัสตะวันตกจึงมารวมกันและแปลภาษาของ King James (ผู้เขียนไบเบิ้ล) ให้เป็น King Ranch (ภาษาคาวบอย) หรือ บัญญัติ 10 ประการในรูปแบบของคาวบอย”
แล้วเขาก็ปิดป้ายไว้ที่ผนังของโบสถ์แห่งหนึ่ง ชื่อ Cross Trails Church ใน Fairlie, Texas ความหมายของๆ บัญญัติ 10 ประการนี้ผมได้ถอดความออกมาแบบคนไม่เคยอยู่เท็กซัส คงได้ความหมายพอใกล้เคียง ดูเองแล้วกัน
ส่วนบัญญัติ 10 ประการของเก่านั้น เอามาจากของเดิมที่เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้เขียนบนก้อนหินให้โมเสส Moses บนยอดเขา Sinai ดูในหนังเรื่อง บัญญัติ 10 ประการได้ ที่เอามาเขียนบนไบเบิ้ลนั้น เป็นการหยิบมาบางส่วน จากของเดิมที่อยู่ในเอกสารของพวกยิวก่อนมีไบเบิ้ล ซึ่งมีประมาณ 20 ข้อ (Ten Commandments" generally refers to the broadly identical passages in Exodus 20:2-17 and Deuteronomy 5:6-21, but can also refer to the so-called "Ritual Decalogue" from Exodus 34.) เจ้า 10 ข้อที่ยอมรับกันมากทั้งพวกที่นับถือศาสนาเดิมของยิว และศาสนาคริสต์นิายต่างๆ เช่น คาธอลิก โปรเตสแตนท์ และพวกคริสต์ใหม่ จริงๆ แล้วมี 12 ข้อ แต่พยายามรวมบางข้อเข้าด้วยกันให้เหลือแค่ 10 โดย 3 กลุ่มนิกายนี้ คือ Jewish, Protestant, Catholic / Lutheran / New Church ทั้ง 12 ข้อมีดังนี้ (จะเห็นว่ามีการพูดถึงก้อนหินที่มุสลิมนับถือด้วย)
1. I am your God
2. You shall have no other gods before Me
3. You shall not make for yourself an idol
4. You shall not make wrongful use of the name of your God
5. Remember the Sabbath and keep it holy
6. Honor your parents
7. You shall not murder
8. You shall not commit adultery
9. You shall not steal
10. You shall not bear false witness
11. You shall not covet your neighbor's wife
12. You shall not covet your neighbor's house...
ส่วน Cross Trails Church in Fairlie, Texas ที่บอกว่าเป็น cowboy church นั้น เข้าใจว่าเป็นโบสถ์ใหม่ มีข่าวปรากฏในหนังสือพิมพ์ USA Today ในเดือนมีนาคม ปี 2003 เกี่ยวกับการประกอบพิธิแบพติสต์ (การให้คนสาบานตนว่าจะนับถือพระเจ้าองค์เดียวและเป็นคริสเตียนที่ดี หรือการ convert จากศาสนาอื่นมาเป็นคริสต์ ) และการเทศน์แบบใช้บรรยากาศคาวบอยเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่นิยมคาวบอยให้เข้า วัด อ่านได้ที่ link นี้ http://www.usatoday.com/life/2003-03-10-cowboy-church-usat_x.htm
ที่ ผมเข้าใจว่าเป็นโบสถ์ค่อนข้างใหม่เพราะ เนื่องจากกระแสคาวบอยหรือชีวิตตะวันตกกำลังบูมอีกครั้งในอเมริกา ทางโบสถ์ต่างๆ ก็เลยได้ไอเดียในการจัดบรรยากาศพิธีกรรมทางศาสนาให้เป็นแบบคาวบอยเพื่อเรียก คน ผู้คนแต่งกายแบบคาวบอย บาทหลวงเทศน์บนโพเดี้ยมแบบคาวบอยหรือโต๊ะไม้สไตล์โบราญ โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทางศาสนาชื่อ Baptist General Convention of Texas mission (BGCT) และตั้งเครือข่ายของตนเองขึ้น ดังเอกสารที่นี่ http://www.baptiststandard.com/2003/3_10/pages/cowboychurch.html ระบุไว้ว่า
Cross Trails is one of several Western-heritage churches springing up across the state with backing from the Baptist General Convention of Texas. The church also is backed by First Baptist Church of Commerce and Hunt Baptist Association. นอกจากนี้ จากเอกสารที่ http://www.baptiststandard.com/2003/3_10/pages/cowboy_fairlie.html ตีพิมพ์ในปี 2003 แค่ 4 ปีมานี้ ในหัวข้อ
Cowboy church does Fairlie well, baptizing 40 so far_By George Henson
_Staff Writer ระบุว่าผู้ก่อตั้งโบสถ์นี้คือนาย Shannon Moreland ซึ่งตำแหน่งในโบสถ์ก็คล้ายมรรคนายกหรือไวยาวัจกรในวัดไทย จุดประสงค์ที่สร้างบรรยากาศในโบสถ์ให้เป็นคาวบอยก็คือ เพื่อดึงคนเท็กซัส ซึ่งมีวิถีชิวิตแบบคาวบอยไม่สนใจศาสนาให้หันมาเข้าโบสถ์บ้าง บทความที่ link นี้กล่าวว่าคนที่ช่วย Moreland ผู้นี้คือนาย Greg Horn และได้เล่าเบื้องหลังการสร้างโบสถ์คาวบอยไว้ว่า เป็นไอเดียที่ตอนแรกเขาคิดว่าออกจะบ้าๆ ไปหน่อย (“I though he was crazy”) ดังที่ลอกมาให้อ่านตอนท้ายข้างล่างนี้ นอกจากนี้ ข่าวจาก USA Today ที่ http://www.usatoday.com/life/2003-03-10-cowboy-church-usat_x.htm ยังระบุว่ามีโบสถ์คาวบอยอยู่ทั่วอเมริกาประมาณ 17 รัฐในปี 2003 และมีเว็บไซต์ชื่อ cowboyministers.com บันทึกรายชื่อไว้แต่ยังไม่มีชื่อโบสถ์ Cross Trails ในแผนที่เลย ดังข้อความนี้ “Most cowboy churches don't have denominational ties, however, so there's no definitive national tally. A Web site, cowboyministers.com, links to cowboy evangelists in 17 states. But Cross Trails isn't on the map — yet.”
ก็คงเห็นแล้วว่า บัญญัติ 10 ประการที่โบสถ์ดังกล่าว เป็นเรื่องทางศาสนา สำหรับผูกใจคาวบอยไว้กับศาสนาและศีลธรรม ซึ่งใครยึดถือได้ก็นับว่าดียิ่งแล้ว แต่ที่ผมยกมา เป็นการบัญญัติโดยคนที่เป็นฆราวาส ที่มีชื่อเสียงสูงสุดคนหนึ่งในการแสดงหนังคาวบอย รวมทั้งแสดงจริงใน ranch และร้องเพลงคาวบอย จนกลายเป็นตำนาน และเขาเป็นผู้ก่อตั้งพิพิธภัณตะวันตกของสหรัฐขึ้นมาด้วย การแสดงของเขาโด่งดังอยู่ระหว่างปี 1930 -1942 ซึ่งเป็นยุคที่กระแสคาวบอยดังที่สุด และคาวบอยตัวจริงจำนวนมากที่ขี่ม้าต้อนวัวจากเท็กซัสถึงมอนตานายังมีชีวิต อยู่ เขาบัญญัติขึ้นเพื่อฝากไว้ให้ลูกหลาน ให้ได้เข้าใจถึงความรับผิดชอบของคนที่รักและอยากจะมีวิถีชิวิตแบบคาวบอยให้ เก็บไว้เตือนใจ ซึ่งเขาคงประมวลจากประสบการณ์ในยุคเขามานั่นแหละว่า ที่คนอเมริกันนิยมชมชื่นหนังคาวบอยกันมากนั้น เป็นเพราะหนังและเพลงคาวบอยสะท้อนวิถีชีวิตดีๆ แบบใดออกมา เรื่องรักชาติที่เขาใส่เข้าไปด้วย ก็คงเพราะเขาเคยอาสาออกรบในช่วงสงครามโลกอยู่หลายปี จนห่างเหินวงการไป และทำให้ Roy Roger มีช่องว่างโด่งดังขึ้นมาได้ในช่วงที่เขาออกรบนั่นเอง เขาท่องทะเลมาถึงแถบเอเชียด้วยซ้ำในยุคนั้น คงเข้าใจอะไรๆ ดีพอควร เมื่อเขากลับไปแสดงอีกครั้งหลังสงคราม เขาจึงใส่ข้อรักชาติเข้าไปด้วย
อีก ประการหนึ่ง เราคงต้องนึกถึงความเป็น universal และครอบคลุมพฤติกรรมด้านต่างๆ ที่คนทั่วไปและเด็กๆ เข้าใจได้ง่าย บัญญัติ 10 ประการของ Gene Autry ไม่ได้กล่าวถึงพระเจ้าแม้แต่คำเดียว และยังห้ามแบ่งแยกทางเชื้อชาติและศาสนาอีกด้วย ซึ่งถือว่าสากลมาก เขาหัวก้าวหน้ามากในยุคนั้น รับได้ทุกศาสนา ถ้าเราบอกว่า ข้อ 1 คาวบอยต้องนับถือพระเจ้า อย่างนี้ ก็คงทำให้คนที่นับถือศาสนาบางศาสนาลำบากใจ อย่างเช่นคนนับถือพุทธแบบเก่าเป็นต้น
ผมให้ข้อมูลไว้แค่นี้ครับ ยังมีอีกเยอะมาก ค้นไนเว็บดูครับ มีอะไรดีๆ อีกเยอะ ส่วนใครจะยึดถือแบบใด ก็แล้วแต่ชอบครับ แต่ละข้อเขาก็ต้องการให้เป็นคนดีมีประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมโลกทั้งคนและสัตว์ ทั้งนั้นแหละครับ
ก็ขอให้ทุกคน Happy Trail ครับ
===== ข้อความเบื้องหลังการสร้างโบสถ์ Cross Trails บางส่วน ก๊อปมาให้ดูครับ
___FAIRLIE--Pastor Shannon Moreland
Greg Horn, the church's lay pastor, described how Moreland and he had been driving down a rural road with a load of cattle feed, and Moreland first broached the idea that led to Cross Trails.
___"He said, 'I think we might need to hold a service for boys who might not go to a church,'" Horn recalled.
___The two men, both laymen in First Baptist Church of Commerce, talked to a few friends and met that Wednesday night in a barn.
___"It wasn't anything special," Moreland recalled. "I just gave my testimony. But the next Wednesday night, we had even more, and I gave my testimony again."
___That went on several months until about 25 cowboys were attending.
___Then Moreland and Horn met with Ron Nolen, a church-starting strategist with the BGCT. "He said, 'You boys need to start a church,'" Horn recounted. "I thought he was crazy."
___But the two laymen took his advice, and the church is flourishing. "I'm just thankful to be here to witness it, and this is nothing to what God is going to do," Horn said.
___Nolen continued that theme when he spoke to the overflow crowd gathered for the baptisms.
___"I want you to know that none of us are anything, but God is everything," he said. "God doesn't have any problem using nobodys, but he does sometimes have a hard time using somebodys."
___Whether nobody or somebody, residents of the Fairlie area are flocking to Cross Trails to learn about God and to worship in a western atmosphere.
___"Many people find excuses to not come to church, but it's not that way at Cross Trails," Moreland said. "The people here can't wait to come, and if they have to miss because a child is sick or they're sick, they want you to videotape it for them so they don't miss any of the excitement."
ภาพการใช้กิจกรรมคาวบอยดึงคนเข้าโบสถ์ของโบสถ์ในกลุ่ม cowboy church ที่ http://www.baptiststandard.com/2003/3_10/pages/cowboychurch.html เผยแพร่โดย Rex Campbell/BGCT Photos ภาพแรกคือคนกำลังออกจากโบสถ์ คาวบอยแห่งหนึ่ง ชื่อ Living for the Brand ซึ่งตั้งชื่อล้อนิยายของหลุยส์ ลามู เล่มหนึ่งคือ Riding for the Brand ภาพถัดไป คือภาพพวกวัยรุ่นที่นิยมคาวบอยกำลังฟังการบรรยายข่าวสารจากพระเจ้าในช่วง เบรคการแสดงคาวบอยประจำสัปดาห์ ที่จัดโดยโบสถ์แห่งนี้ อีก ภาพหนึ่งคือวิธีการบรรยายข่าวสารจากพระเจ้าในบรรยากาศแบบคาวบอยๆ ภายในโบสถ์ และภาพวัยรุ่นหัดขี่วัวหลังกิจกรรมทางศาสนา
ภาพที่ 4 คือภาพหน้าจอตอนหนึ่งของ wikipedia ที่กล่าวถึงข้อโต้แย้งเรื่องการนำบัญญัติ 10 ประการของพระเจ้าไปสร้างเป็นอนุสาวรีย์หรือติดประกาศในที่สาธารณะ ปัญหาหนึ่งก็คือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ และนิกายโรมันคาธอลิกแปลความหมายบัญญัติ 10 ประการไม่ตรงกัน และระบุว่า ต้นตอปัญหานี้ เริ่มมาจากการที่ ในปี 1956 ผู้กำกับหนังเรื่อง บัญญัติ 10 ประการ พยายามโปรโมตหนังของตนเองโดยใช้บัญญัติ 10 ปะรการเป็นเครื่องมือ ในหน้านี่ยังมีภาพหินแกะสลักข้อความบัญญัติ 10 ประการฉบับของพระเจ้า สร้างไว้ที่สาธารณะแห่งหนึ่งในเท็กซัส
ผมว่าเอาอันใดอันหนึ่งก็ได้ครับ ใครทำได้ 10 ข้อ ผมก็ขอก้มหัวคาราวะตลอดกาลเลย หรือทำไม่ได้จริงๆ ก็ไปดูบัญญัติคาวบอยฉบับใหม่ ของนักร้องคาวบอยตัวจริงที่ยังมีชีวิตอยู่ คือ Michael Martin Murphey ซึ่งผมโพสต์ไว้ที่
http://www.cowboythai.com/forum/index.php?topic=1995 ชื่อเพลง Cowboy Logic และแปลไว้ให้แล้วด้วย ดาวน์โหลดเพลงไปฟังได้ มันดี ผมมีอัลบัมเพลงคาวบอยของเขาทั้งชุดอยู่แผ่นหนึ่ง ฟังแล้วทันสมัยดี เสียงเขาหล่อดี และถ้ามีเงินก็ไปทัวร์คาวบอยกับเขาได้ เดือนกันยายนหน้านี้ ผมโพสต์ไว้แล้วในหน้าเกี่ยวกังงานคาวบอย
ต่อไปนี้เป็นเป็นรูปที่ช่าง ภาพหนังสือพิมพ์ USA Today ชื่อ Mark Williams ที่ผมกล่าวถึงถ่ายมาเผยแพร่ในตอนไปทำข่าว Cross Trails Church ในปี 2003 ครับ ภาพข้างล่างนี้ คือบริเวณที่จอดรถของโบสถ์ อยู่ 75 ไมล์ตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Dallus จะเห็นมีทั้งม้าและคน.
ภาพ Happy Trails ของจริง ด้วยยุทธวิธีใช้ค่านิยมคาวบอยดึงคนเข้าโบสถ์ ชาวบ้านก็ทำให้การไปโบสถ์วันอาทิตย์กลายเป็นเรื่องสนุกสนานสำหรับเด็กๆ โดยให้ขี่ม้ากันไป นี่คือภาพครอบครัวของ เจอเรมี อันเดอร์วูด และ เชด จอร็จ บนเส้นทางไปโบส์ถ Cross Trails
เฮ้อ.... จะมีวัดไทยที่ใหนทำอย่างนี้บ้างน้อ เอาหลวงพี่นั่งอานม้าเทศน์เสียเลย คงดึงคนได้มากขึ้นแน่
แต่ พระนั่งม้าไปบิณฑบาตรในไทยก็มีแล้วนะครับ ไปดู Unseen Thailand ได้เลย เป็นข่าวใหญ่อยู่พักหนึ่ง อยู่ที่เชียงราย หลวงพ่อสักยันต์เต็มตัวเลย เช้ามา พระ เณรเด็กๆ ขี่ม้าลงดอยมาบิณฑบาตรตามบ้านชาวเขาอย่างสนุกสนาน และกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวไปแล้ว
นี่คือภาพพิธีแบพติส คนซ้ายมือเสื้อขาวคือ Shannon Moreland คนก่อตั้งโบสถ์ Cross Trails เขากำลังทำพิธีให้แก่ Clint Ellyson ผู้ซาบซึ้งในรสชาติการสัมผัสพระเจ้าจนร้องไห้ (คนกลาง) โดยมี Greg Horn เพื่อผู้ร่วมก่อตั้งโบสถ์เป็นผู้ช่วย จะเห็นว่าทั้งสองคนยังหนุ่มอยู่มาก เป็นนักเทศน์ที่อนาคตไกลทีเดียว
เรื่องการไปโบสถ์และทำพิธีแบพติสนี่มีอิทธิพลมากนะครับ คนศาสนาอื่นที่ใจอ่อนอย่าประมาทเชียว ผมมีลูกศิษคนหนึ่ง ไปเรียน ป. เอก ต่างประเทศ ช่วงอยู่ที่นั่น 3-4 ปี มีความเครียดจัด เรื่องคนรัก และเรื่องเรียน เธอเป็นคนไทยพุทธ เพื่อนเห็นเครียดเลยชวนไปโบสถ์ เมื่อฟังพระเทศน์และพูดจูงใจเกี่ยวกับพระเจ้า ก็เกิดความขัดแย้งในใจถึงขั้นหมดสติกลางโบสถ์ พอฟื้นมาเขาก็ชวนให้หันไปพึ่งพระเจ้า และในที่สุดก็ทำพิธีสาบานตนเปลี่ยนศาสนา ตอนนี้กลับมาทำงานหลายปีแล้ว ได้ทั้งปริญญาเอก และศาสนาใหม่
ภาพข้างล่างคือบรรยากาศภายในโบสถ์ Cross Trails และแน่นอน คาวบอยต้องถอดหมวก
คำแนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากเปลี่ยนศาสนาก็คือ ศึกษาศาสนาของตนเองให้ถึงแก่นพอควร เวลาไปศึกษาต่างประเทศมีความเครียดจะได้นำมาช่วยตนเองได้ ไม่งั้นอาจจำเป็นต้องหันไปหานักบวชในศาสนาอื่น และเราจะไม่มีทางโต้แย้งอะไรเขาได้เลย เพราะเขาใกล้ชิดกับศาสนาเขาและมียุทธวิธีเปลี่ยนคนให้หันมาหาศาสนาเขาและถือ ว่าเป็นหน้าที่อยู่แล้ว
ผมศึกษาอยู่ต่างประเทศระยะหนึ่ง แต่บังเอิญผมศึกษาศาสนาพุทธแนวพุทธทาสมาค่อนข้างลึกพอควร จึงเอาตัวรอดมาได้ทั้งๆ ที่ผมเคยไปร่วมการศึกษาไบเบิ้ล (Bible Study) กับกลุ่มโปรเตสแตนส์ในวันพุทธ ผมเคยไปเช่าบ้านคนๆ หนึ่งอยู่ เขาดื่มจัดจนเป็นแอลกอฮอลิก เขาถือคริสต์ ผมเลยชวนเขาไปฟัง Bible Study ด้วย ปรากฎว่าไปได้ แค่ 2-3 ครั้ง เขาก็เกิด conflict ในใจ ดื่มเหล้าไม่ได้ กลายเป็นประสาทหลอน ต้องเข้าโรงพยาบาลหลายวัน พอออกจากโรงพยาบาลก็หยุดดื่มเหล้าไปหลายปี เป็นเรื่องจริงที่พบกับตัวเอง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ภาพข้างล่างก็คือรายการบันเทิงหลังฟังเทศน์ นี่คือตัวอย่างที่วัดไทยควรทำ อย่าให้การเข้าวัดมันเป็นพิธีกรรมทางศาสนามากจนเกินไป เพราะจะทำให้วัยรุ่นหันหลังให้วัดแต่หันหน้าเข้าหาเพลงและดิสโกเท็คกันหมด ถ้าสังเกตุ จะเห็นอ่างน้ำด้านขวามือ อ่างนี้ใช้น้ำทำพิธีแบพติส ถ้าเป็นสมัยก่อน เขาจะจับกดหัวมุดน้ำเลย แต่สมัยนี้ แค่รดน้ำแบบสงกรานต์ก็พอ
ก็อย่างว่า เขามีการศึกษาค้นคว้าปรับเปลี่ยนยุทธวิธีเผยแพร่ศาสนาตลอดเวลา ถ้าอ่านเรื่องการตั้งโบส์ถ Cross Trails ที่ผมก๊อปภาษาอังกฤษมาลง จะเห็นว่า เขามี Stragegist หรือนักยุทธวิธีเข้ามาร่วมวางแผนด้วย อย่างนี้นี่เอง เขาจึงขยายได้ทั้งทางเศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรมได้ทั่วโลก
ถ้าทางเอเซียเรายังทำกันแบบตามมีตามเกิด ไม่ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีเหมือนเดิม ผมว่า ไม่นาน คงถูกกลืนกันหมด
ประเด็นที่ต้องเข้าใจก็คือ ในยุคตะวันตก ไม่มีโบสก์คาวบอยในรูปแบบที่พยายามทำกันเป็นเครือข่ายเหมือนขณะนี้ พระเขาก็แต่งตัวแบบพระทั่วไป ไม่แต่งตัวเลียนแบบคาวบอย และไม่เคยมีการเอาบัญญัติ 10 ประการที่จารึกไว้ในคุัมภีร์ไบเบิ้ลมาอ้างว่า นี่คือ บัญญัติ 10 ประการของคาวบอย เพราะนั่นผมเห็นว่า มันผิดมหันต์ เพราะนั่นคือบัญญัติของพระเจ้า ไม่ใช่ของคาวบอย
เรื่องคาวบอยคนแรกนี้ คงต้องถกกันอีกนานมาก ว่า เกิดที่ใหนแน่ เพราะบางพวกบอกว่าเกิดในอเมริกา แต่นักประวัติศาสตร์จริงๆ เขาขุดต้นตอแล้วบอกว่ามาจากประเทศเสปน เข้าไปในเมกซิโก แล้วก็กระจายเข้าไปในเทกซัส จนกลายเป็นคาวบอยแบบอเมริกัน ถ้ามองว่าคาวบอยอเมริกัน คือเด็กต้อนวัวอเมริกัน ก็อ้างได้ว่า คาวบอยอเมริกันเกิดในเท็กซัส แต่ถ้ารวมพวกประเทศอื่น ที่มีอาชีพอย่างเดียวกัน มันก็คงไม่ใช่ เรื่องนี้มีเขียนไว้เป็นบทกวีโดยชาวคาวบอยคานาดา และเอาไปร้องเป็นเพลงชื่อ From Whence came the Cowboy หรือ Whence came the cowboy แปลเป็นไทยว่า คาวบอยมาจากใหน ถ้ามีเวลาจะเอามาแปลและทำ MP3 ให้ดาวน์โหลด
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|