ไม่ได้โพสต์รูปเกี่ยวกับสังคมคาวบอยของพวกเรามาหลายวัน วันนี้ขอแนะนำคาวบอย คาวเกิร์ล ระดับเด่น ในงานวัยเกิดของพี่ ดามพ์ ดัสกร เมื่อ 20 มิย 58 ก็แล้วกันนะครับ
ภูสมิง หน่อสวรรค์
ภูสมิง หน่อสวรรค์ | ||
---|---|---|
ชื่อเกิด | ภูสมิง หน่อสวรรค์ | |
ชื่อเล่น | ป็อก | |
ชื่ออื่น | หมิง | |
วันเกิด | 30 สิงหาคม พ.ศ. 2499 (58 ปี) | |
เกิดที่ | ประเทศลาว | |
แนวเพลง | โฟล์กซอง, คันทรี, ป็อป | |
อาชีพ | นักร้อง, นักดนตรี | |
เครื่องดนตรี | กีตาร์ Ovation, Adamas, Martin, Yamaha | |
ปี | พ.ศ. 2524 - ปัจจุบัน | |
ค่าย | รถไฟดนตรี พีจีเอ็ม |
|
ส่วนเกี่ยวข้อง | จรัล มโนเพชร ธนิต ศิลปะกิต ระย้า กิตติคุณ เชียรสงค์ ฉันทนา กิติยพันธ์ สุดา ชื่นบาน |
ภูสมิง หน่อสวรรค์ นักร้องเพลงโฟล์กซอง ลูกครึ่งไทย-ลาว เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2499 ที่ประเทศลาว เป็นบุตรชายของท้าวภูขง หน่อสวรรค์ อดีตอธิบดี, กงสุลลาวในไทยและฮ่องกง มารดา นางบัวลอย หน่อสวรรค์ (ไชยวงค์) สาวน้อยจบ ป.4 จากลำพูน บ้านป่าเส้า หลานนายพลภูมี หน่อสวรรค์ ซึ่งเป็นทั้งทหารและนักการเมืองฝ่ายขวาของลาว มีพี่น้องทั้งหมด 5 คนโดยเขาเป็นคนที่ 4 [1]
ระหว่างที่เรียนระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยจังหวัดเชียงใหม่ ภูสมิงได้ตั้งวงดนตรีกับเพื่อนๆ ชื่อ "พับบลิคเทเลโฟน" ขึ้นมา ออกแสดงตามสถานบันเทิงรอบเมืองเชียงใหม่
จากนั้นจึงเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ มาเรียนด้านบริหารธุรกิจอยู่ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สมัยที่ยังใช้ชื่อว่า วิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อยู่ ภูสมิงได้ร่วมกลุ่มกับเพื่อนที่รามคำแหง และจุฬาฯ ตั้งวงดนตรีโฟล์คซองไปเล่นประจำอยู่ที่ ร้านทิกกาเดอรี่ ข้างสถานทูตอังกฤษ เป็นภาษาอังกฤษ กระทั่ง ธนิต ศิลปะกิจ ผู้เคยทำงานร่วมกับจรัล มโนเพชร ในคอนเสิร์ตแฮนด์ อิน แฮนด์ ทราบข่าวว่าภูสมิงแต่งงานเพลงไทยไว้บ้าง จึงชักชวนกันทำอัลบั้มเพลง [2]
ปี พ.ศ. 2524 อัลบั้มแรกชุดขอรัก ภูสมิง หน่อสวรรค์ กับ ธนิต ศิลปะกิจ ได้ทำมาสเตอร์เทป ที่ห้องอัดของ จรัล มโนเพชร ในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อนำมาเสนอค่ายเทปบริษัทโฟร์แทรคให้ความสนใจผลิต หลังเพลงออกอากาศ ระย้า นักจัดรายการวิทยุและเจ้าของค่ายรถไฟดนตรี ที่กำลังประสบความสำเร็จกับศิลปินทรีโอ สาว สาว สาว อยู่ มีโอกาสฟังน้ำเสียง จึงพูดออกอากาศใครรู้จักภูสมิง ให้ช่วยติดต่อกลับมายังสถานี
ภูสมิง หน่อสวรรค์ เริ่มผลิตอัลบั้มชุด 2 รักนิรันดร์ กับค่ายรถไฟดนตรีในปี พ.ศ. 2525 โดยมีการดึง ภูสมสนุก หน่อสวรรค์ ลูกชายของอามาร่วมงานเพลง ทั้งคู่มาประสบความสำเร็จในปีถัดมา อัลบั้มชุดที่ 3 มีเพลงที่ได้รับความนิยม คือ ลองรักอีกครั้ง กับ บทเรียนสอนใจ ทำให้มีงานแสดงประจำอยู่ที่ห้องอาหารครัวหลวง โรงแรมแมนดาริน ต่อเนื่องไปยังโรงแรมมณเฑียร และโรงแรมฮิลตัน ยอดขายชุดลองรักอีกครั้ง ทะลุถึง 1 แสนม้วนซึ่งถือว่ามากในสมัยนั้น
เมื่อภูสมิงและน้องชายมีโอกาสออก รายการลูกโป่งสีชมพู ทางช่อง 9 และต้องเล่นโฟล์คซองเพลงสากล ทำให้ระย้าเห็นโอกาสดีจึงผุดแนวคิดดิสโอลด์กีตาร์ นำเพลงสากลคันทรีมาคัฟเวอร์ใหม่ อัลบั้มดิสโอลด์กีตาร์ผลิตออกมา 5 ชุด โดยภูสมิงมีการสลับงานเพลงไทย ชุดถามหาความรัก และ ชุดตัวแทน ออกมารักษาความนิยม มีเพลงที่ได้รับความนิยมเช่น ใคร ๆ ก็รู้, ตัวแทน[3]
ปี พ.ศ. 2530 ภูสมิงเว้นช่วงผลิตงานเพลง และหันไปลงทุนธุรกิจร้านอาหารภูสมิงที่อยู่ดอนเมือง โดยมีการเชิญนักร้องเพลงสากล อาทิ ฉันทนา กิติยพันธ์, สุดา ชื่นบาน และกิตติคุณ เชียรสงค์ ไปร่วมสร้างสีสัน หลังดำเนินธุรกิจได้ 9 ปี ร้านอาหารประสบวิกฤติฟองสบู่แตก จนร้านภูสมิงจำต้องปิดตัวลงไป
ภูสมิงกลับมาทำงานเพลงอีกครั้งร่วมกับค่ายพีจีเอ็ม โดยเป็นการนำเพลงไทยยอดนิยมในอดีต อาทิ กุหลาบปากซัน, เป็นไปไม่ได้ และ ภวังค์รัก มาคัฟเวอร์ใหม่ รวมถึงรับเชิญไปร้องเพลงในต่างประเทศ แต่การร้องเพลงต่างแดนรายได้ขึ้นอยู่กับทิปผู้ฟังไม่ได้เป็นการว่าจ้าง ปัจจุบันแสดงดนตรีทั่วไปทั่วราชอาณาจักรไทย กทม. Waterside, The Local, Vintage
อ้างอิง
อัศวิน รัตนประชา
อัศวิน รัตนประชา | |
![]() |
|
ชื่อเกิด | สายัณห์ บำรุงกิจ |
ชื่อเล่น | ตึ๋ง |
เกิด | พ.ศ. 2489 (อายุ 69 ปี) จันทบุรี ประเทศไทย ![]() |
อาชีพ | นักแสดง |
ปีที่แสดง | 2514-2544 |
ส่วนเกี่ยวข้อง | ช่อง 3, ช่อง 7, ช่อง 9 |
ฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย (ThaiFilmDb) |
---|
อัศวิน รัตนประชา มีชื่อจริงว่า "สายัณห์ บำรุงกิจ" ชื่อเล่น "ตึ๋ง" เกิดเมื่อ ปี พ.ศ. 2489 [1] ที่จังหวัดจันทบุรี เป็นพี่ชายแท้ๆ ของ "ธนาวุฒิ บำรุงกิจ" หรือ พล พลาพร อดีตพระเอกละครช่อง 7
จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากจันทบุรี แล้วมาเป็นทหารเรือที่อู่ตะเภา จังหวัดระยองอยู่ 2 ปี เมื่อปลดประจำการได้ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการบริษัทรถแท็กซี่นำเที่ยวที่เดิม จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2514 ได้มาสมัครเป็นนักแสดงละครช่อง 4 บางขุนพรหมเรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ ซึ่งสร้างโดยบุญถึง ฤทธิ์เกิด โดยรับบทเป็น "จะเด็ด" คู่กับ ศศิมา สิงห์ศิริ ต่อมาคุณสนั่น นาคสู่สุข หรือ เซียนเป๋ ได้ชักนำเข้าสู่วงการภาพยนตร์โดยให้ใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า อัศวิน รัตนประชา เริ่มแรกได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง 7 ดอกจิก โดยเป็น 1 ใน 7 พระเอก แต่เนื่องจากใช้เวลาหานักแสดงให้ครบ 7 คนนานเกินไปจึงออกฉายช้าไปเป็น พ.ศ. 2518 หลังภาพยนตร์เรื่อง พิษพยาบาท ของเสถียร ธรรมเจริญ ที่สร้างทีหลังแต่ออกฉายก่อนในปี พ.ศ. 2516 อัศวินจึงได้เริ่มเป็นที่รู้จักเล็กน้อยในฐานะพระเอกใหม่ที่แสดงร่วมกับ สมบัติ เมทะนี และ นัยนา ชีวานันท์ และเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง สตรีที่โลกลืม (2518) ของ ชุติมา สุวรรณรัตน์ ในบทน้องชายของพระเอกซึ่งแสดงโดย สมบัติ เมทะนี จากนั้นจึงมีผลงานทางภาพยนตร์ต่อมาอีกหลายเรื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นพระเอกร่วม, พระรอง และบทสมทบ บทพระเอกที่มีชื่อเสียงในภาพยนตร์ที่เขาแสดงคือเรื่อง ชีวิตเลือกไม่ได้ (2524) ซึ่งแสดงร่วมกับ เปียทิพย์ คุ้มวงศ์, นิภาพร นงนุช และ อนุสรณ์ เตชะปัญญา อีกเรื่องหนึ่งคือ วีระบุรุษกองขยะ
อัศวิน รัตนประชา ได้มีผลงานทางละครหลายเรื่อง โดยมักรับบทเป็นพระเอกส่วนใหญ่ เนื่องจากหน้าตาที่หล่อเหลาคมเข้มและรูปร่างดี ละครที่สร้างชื่อเสียงนอกจากเรื่องผู้ชนะสิบทิศ ยังมีเรื่อง สวรรค์เบี่ยง ในปี พ.ศ. 2521 ทางช่อง 9 โดยรับบทเป็น "คาวี" คู่กับ เดือนเต็ม สาลิตุล และมีผลงานทางละครตามมาอีกหลายเรื่องทางช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 7 และ ช่อง 9 อาทิ เช่น นางสาวทองสร้อย, แม่ม่าย, มายา, กุหลาบไร้หนาม, อีสา ฯลฯ ทางช่อง 9; โรงแรมวิปริต, เงา, ลับแลใจ, นางแมวป่า, พระอภัยมณี ทางช่อง 7 ส่วนเรื่องสุดท้ายที่แสดงเต็มตัวในบท "อุทัย" เมื่อปี พ.ศ. 2544 คือ คมพยาบาท ทางช่อง 7 และได้รับเชิญให้แสดงละครของเอ็กแซ็กซ์เรื่อง ละอองดาว ในปี พ.ศ. 2550 [2]
ปัจจุบันได้ผันตัวไปทำธุรกิจขายรถมือสอง เป็นดีเจวิทยุและเป็นตัวแทนผลิตภัณท์อาหารเสริม และสนใจชมมวยไทยเป็นงานอดิเรก [3]
เนื้อหา
ผลงาน
ภาพยนตร์
- พิษพยาบาท (2516)
- 7 ดอกจิก (2518)
- สตรีที่โลกลืม (2518)
- แค้น (2518)
- นายอำเภอใจเพชร (2518)
- ถนนนี้ชั่ว (2518)
- แม่ม่ายใจถึง (2519)
- วีระบุรุษกองขยะ (2519)
- ไอ้ปืนแฝด (2519)
- เพลิงทะเล (2520)
- เมียรายเดือน (2520)
- 1 ต่อ 7 (2520)
- ผู้ยิ่งใหญ่ชายแดน (2520)
- ทางชีวิต (2520)
- ไอ้ขลุ่ย (2520)
- รักเลือกไม่ได้ (2520)
- เหยียบหัวสิงห์ (2520)
- หัวใจที่ไม่อยากเต้น (2520)
- 12 สิงห์สยาม (2520)
- หล่อนชื่อมาลี สูงเนิน (2521)
- แรกรัก (2521)
- เพลงรักเพื่อเธอ (2521)
- 35 กะรัต (2522)
- ชาติหินดินระเบิด (2522)
- ตามล่า (2523)
- ชีวิตเลือกไม่ได้ (2524)
- ใครกำหนด (2524)
- เสือมังกร (2524)
- แค้นต้องฆ่า (2525)
- ลูกสาวกำนัน ภาค 2 (2526)
- สิงห์เดนตาย (2526)
- พลิกแผ่นดินล่า (2527)
- เปรียว (2527)
- รักของปรัศนีย์ (2527)
ละคร
- ช่อง 4 บางขุนพรหม
- ผู้ชนะสิบทิศ (2514)
- ช่อง 3
- อำนาจลึกลับ (2520)
- ความรัก ตอน ปัญหาของแม่ (2521)
- จิตไม่ว่าง (2523)
- ศิขริน-เทวินตา (2524)
- สาปอสูร (2527)
- ช่อง 5
- ลูกกรอก (2519)
- ชั่วฟ้าดินดับ (2529)
- ละอองดาว (2550) (รับเชิญ)
- ช่อง 7
- เงา (2525)
- โรงแรมวิปริต (2526)
- ลับแลใจ (2526)
- นางแมวป่า (2527)
- ความลับของดาวมรกต (2527)
- มัสยา (2528)
- พระอภัยมณี (2529) รับบท ท้าวอุศเรน
- แหวนทองเหลือง (2529)
- ดุจฟ้าไร้ดาว (2543) (รับเชิญ)
- คมพยาบาท (2544)
- ช่อง 9
- สวรรค์เบี่ยง (2521)
- แม่ม่าย (2521)
- นางสาวทองสร้อย (2522)
- ใครกำหนด (2522)
- สามอนงค์ (2523)
- ภูตพิศวาส (2523)
- กุหลาบไร้หนาม (2523)
- มายา (2524)
- ลางรัก (2524)
- หลานสาวคุณหญิง (2524)
- อีสา (2525)
อ้างอิง
+++++++++++++++++++++++
https://www.se-ed.com/product-search/กฎชนก-สุขสถิตย์.aspx?keyword=กฎชนก+สุขสถิตย์&search=author

© Copy Right by SE-EDUCATION Public Company Limited.
++++++++++++++++++++++++++
ดามพ์ ดัสกร
ดามพ์ ดัสกร | |
![]() |
|
ชื่อเกิด | ดามพ์เผด็จ ดัสกร ธนฤกษ์ ธัญมงคล (ชื่อในปัจจุบัน) |
ชื่อเล่น | เบิ้ม |
เกิด | 19 มิถุนายน พ.ศ. 2488 (70 ปี) อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา |
อาชีพ | นักแสดง, นักการเมือง |
ปีที่แสดง | พ.ศ. 2513 - ปัจจุบัน |
ฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย (ThaiFilmDb) |
---|
ดามพ์ ดัสกร นักแสดงผู้รู้จักกันดีในบทของดาวร้ายในอดีต มีชื่อจริงว่า ดามพ์เผด็จ ดัสกร (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น "ธนฤกษ์ ธัญมงคล") มีชื่อเล่นว่า "เบิ้ม" เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2488 ที่บ้านควนขี้แรด ตำบลนาหว้า อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการ จากมหาวิทยาลัยเกริก และปริญญาโทนิเทศศาสตร์ สาขาธุรกิจการท่องเที่ยวและบันเทิง จากมหาวิทยาลัยเกริก
เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นพนักงานต้อนรับชาวต่างประเทศ ที่สนามมวยราชดำเนิน จนกระทั่ง หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ไปพบถึงชวนเข้าสู่วงการบันเทิง โดยให้รับบทดาวร้ายครั้งแรกใน ภาพยนตร์ 16 มิลลิเมตร เรื่อง "หญิงก็มีหัวใจ" ฉายทางช่อง 7 สี ในปี พ.ศ. 2513 หลังจากนั้นได้เป็น พระเอกในละครโทรทัศน์เรื่อง "ปิง วัง ยม น่าน" โดยประกบกับ นางเอก ศิรินธร ศรอนงค์
มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก "มันมากับความมืด" (ซึ่งเป็นเรื่องแรกของ สรพงษ์ ชาตรี และ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ด้วย) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ "ทอง ภาค 1" นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วยังเป็นอำนวยการสร้างภาพยนตร์และกำกับภาพยนตร์ เรื่อง "ดาวพระเสาร์" ในปี พ.ศ. 2525 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ในระยะหลังได้กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง โดยการชักนำของ ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก แห่ง บริษัทกันตนา และไพรัช สังวริบุตร แห่ง บริษัทดาราวิดีโอ ให้มารับบทดาวร้ายในละครโทรทัศน์ของช่อง 7 หลายเรื่อง เช่น เมืองโพล้เพล้, ผมอาถรรพ์, มนต์รักลูกทุ่ง, แม่นาคพระนคร, ปะการังสีดำ, สื่อกามเทพ, ขุนเดช, นางแมวป่า, ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว และจวบจนถึงปัจจุบัน
เคยได้รับรางวัลดาวร้ายยอดเยี่ยม จากการประกวดรางวัลผลงานดีเด่นทางโทรทัศน์ เมขลา ปี พ.ศ. 2538 จากบท "เศรษฐีจอม" ในละครโทรทัศน์เรื่อง "มนต์รักลูกทุ่ง"
นอกจากนี้แล้ว ยังมีญาติผู้น้องของเจ้าตัวหลายคนก็ได้เป็นนักแสดงในบทร้ายตามมาอีกด้วย เช่น กิตติ ดัสกร, ภิญโญ ปานนุ้ย, ยุพข่าน เป็นต้น
ในทางสังคมและการเมือง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยในกลางปี พ.ศ. 2553 โดยก่อนหน้านั้นเคยเป็นสมาชิกพรรคประชากรไทยมาก่อน ซึ่งในครั้งนี้ เจ้าตัวคาดหวังว่าจะได้ลงรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นบ้านเกิด[2] จนในปี พ.ศ. 2554 ดามพ์ ดัสกร ได้ย้ายเข้าสังกัดพรรคความหวังใหม่ โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบแบ่งเขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขต 9 (เขตจตุจักร) [3] แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง[4]
อ้างอิง
ถัดไป > |
---|