ใครที่เคยดูหนัง Dances with Wolves ซึ่งได้ 7 ตุ๊กตาทองออสการ์ ปี 1990 นำแสดงโดย Kevin Costner ยังจำได้ไหมครับ มุกตลกๆ แบบอินเดียนคาวบอยในรูปต่อไปนี้ Kevin เขากำลังทำอะไรอยู่ ให้อินเดียนแดงนั่งหน้าถมึงทึงถือถ้วยรออย่างเคร่งเครียดดังนี้ครับ
Kenvin กำลังบดกาแฟ เพื่อทำกาแฟให้อินเดียนแดงทดลองดื่มไงครับ
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่คาวบอยแทบจะขาดไม่ได้ ในวันคืนหนาวเย็น ในหนังหลายๆ เรื่อง เราจะเห็นคาวบอยนั่งรอบกองไฟ ต้มกาแฟ แบ่งกันกิน
และที่คลาสสิกมากๆ ก็คือ ต้องบดกาแฟด้วยเครื่องบดที่หมุนด้วยมือ อย่างที่ Kelvin ทำในหนัง Dances with Wolves นั่นแหละครับ
กาแฟ ที่หอม อร่อยสุดๆ ต้องบดเดี๋ยวนั้น ชง และดื่มก่อนที่กลิ่นหอมของมันจะจางหายไป ซึ่งเครื่องบดกาแฟมือหมุนเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับคอกาแฟที่แท้จริง และมันให้บรรยากาศและรสชาดที่ดีมาก เวลาไปแคมปิ้ง ผมจึงมีกล่องชุดทำกาแฟติดรถไว้เวลาไปเที่ยวพักแรมเสมอๆ
เครื่องบดกาแฟนี่ เป็นเครื่องมือที่ออกแบบอย่างมีศิลปะอย่างหนึ่ง แต่ละท้องที่ก็แตกต่างกันไป มีชนิดที่ทำด้วยไม้ หรือวัสดุอื่น การที่ต้องใช้มือหมุน บดเอง ทำให้ได้บรรยากาศในการกินกาแฟมากขึ้น เครื่องนี้สามารถปรับความละเอียดของเม็ดกาแฟที่บดได้
เพราะ เหตุนี้ ผมจึงสะสมเครื่องบดกาแฟไว้จำนวนหนึ่ง และเวลาไปเที่ยวที่ไหน มักสอดส่ายสายตามองหามันเสมอ ถ้าราคาพอสู้ก็จะซื้อติดมือมาด้วย ตอนนี้ผมมีเครื่องบดกาแฟที่ซื้อมาจากในประเทศบ้าง และที่อื่นบ้างรวม 3-4 ประเทศ ในรูปนี้ขาดไปอันหนึ่ง ทำจากเยอรมัน อันนั้นเอาไว้ใช้ที่ทำงานเลยไม่ได้ถ่ายรูป
ดูรูปทรงของแต่ละแบบก็แล้วกันครับ
อันที่ทำด้วยเซรามิค ทำจากเนเธอร์แลนด์ครับ ของเขาทำได้สวยมาก มีหลายแบบ แบบข้างล่างนี้ ใช้แขวนข้างฝา และใส่เม็ดกาแฟไว้เยอะๆ กะเปาะแก้วมีให้เห็นว่า บดผงกาแฟได้แค่ไหนแล้ว เพื่อกะปริมาณให้พอดีแก้ว อ่อนแก่ตามใจชอบ เมื่อได้ตามต้องการแล้ว ก็ดึงกะเปาะแก้วออกมาเทใส่เครื่องกรองได้เลย อันนี้เข้าท่ามากสำหรับคอกาแฟที่มีหลายๆ คนอยู่ด้วยกัน
อันนี้เป็นอีกอันหนึ่ง ที่ชอบมาก ซื้อมาจาก Sovereign Hill หมู่บ้านคาวบอยที่มีเหมืองทอง เคยรุ่งเรืองยุคตื่นทองปี 1851 ในออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ผมเคยไปเที่ยว ชาวบ้านร่วมใจกันแต่งกายยุคคาวบอยมาเดินโชว์ตัว เด็กๆ ทำเป็นร่อนทองในลำธารที่นักท่องเที่ยวต้องเดินข้ามไปดูเหมืองทอง และยื่นขวดเล็กๆ ให้ดูเศษทองที่ร่อนได้ เขาเล่นกันจริงจัง
ที่ บริเวณถนนในเหมืองทองที่เคยเป็นร้านค้า มีรถม้ายุคคาวบอยพร้อมม้าให้เช่าขี่ ข้างถนนแบบเมืองคาวบอยเขาก็ยังรักษาไว้ให้เหมือนเดิม มีร้านค้าของที่ระลึกหลายร้าน ที่ผมซื้อที่บดกาแฟมานั่นแหละ และมีโรงพิมพ์ยุคเก่าแก่แห่งหนึ่ง เปิดให้เข้าไปดูได้ มีคนแก่แสดงเป็นช่างเรียงพิมพ์เฝ้าอยู่ เราสามารถจ่ายเงินให้เขาพิมพ์ใบประกาศบนกระดาษด้วยตัวเรียงพิมพ์ที่ทำจาก ตะกั่วแบบยุคคาวบอย ข้อความที่พิมพ็ มักเป็นประกาศที่เขาเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยว เช่น นาย...(ใส่ชื่อของเรา) เป็นผู้พบก้อนแร่ทองคำใหญ่ก้อนหนึ่ง ณ เหมืองทองแห่งนี้ เมื่อวัน เดือน ปี พร้อมรูปก้อนแร่ทองคำที่เราเจอ ผมสั่งทำมาใบหนึ่ง แต่ไม่รู้เก็บไว้ที่ไหนแล้ว
อันที่ใช้ประจำวันคืออันเล็กนี้ครับ ทำจากใต้หวัน แต่ซื้อที่สิงคโปร์
กาแฟ ที่รู้สึกว่าสุดยอดของไทย คือกาแฟที่ได้รางวัลที่ 1 ของเอเซียเมื่อปี 2007 คือ NACHA Coffee รสดีและหอมมากๆ ผลิตจากกาแฟที่ปลูกแถวดอยสะเก๊ต เชียงใหม่ เป็นตำนานกาแฟดีของเชียงใหม่ที่น่าภูมิใจ
ถ้าต้องการกินด่วน ก็ใช้กรองด้วยกระดาษกรองอย่างในรูป แล้วเอาน้ำร้อนจากกระติกน้ำไฟฟ้า ราดลงไป คนหน่อยๆ ก็จะได้กาแฟหอมกรุ่น
เเพื่อให้เรื่องเครื่องบดกาแฟของผมมันสมบูรณ์ เอารูปเครื่องบดกาแฟอีกอันหนึ่ง ที่ใช้อยู่ที่ทำงานและไม่ได้ลงรูปไว้ในตอนแรกมาให้ดูครับ
เครื่องนี้เป็น ของเยอรมัน ซื้อมาจากเมืองมิวนิค รูปร่างไม่คลาสสิก เป็บแบบเรียบๆ ทำด้วยไม้สน บางคนเขาว่ามันให้กลิ่นไม้สนด้วย หอมดี เป็นเอกลักษณ์ของยุโรปอย่างหนึ่ง
ใบมีดบดของมันดีมาก เป็น stainless steel คมและหนักแน่นตามแบบของเยอรมัน
ข้อ เสียของมันก็คือ เวลาบดต้องจับที่ตัวกล่องไม้ให้แน่น แต่จับยากไม่สะดวกเพราะมันโตเกินขนาดพอดีมือคนไทยทั่วไป ต้องมือแข็งจริงๆ จึงเอาอยู่ ไม่ง่ายเหมือนแบบมีกรวยด้านบนที่เราจับตรงกรวยเหล็กง่ายกว่า
ถ้าอยากกินแบบคลาสสิกอีกหน่อย ก็ใช้กาต้มกาแฟแบบข้างล่าง แบบนี้ต้องจุดเตาแกสต้มประมาณ 3-5 นาที สามารถอัดผงกาแฟแน่นมากน้อยตามรสนิยมได้ คล้ายเครื่องอัดความดันราคาแพงๆ ตามร้านใหญ่ๆ กลิ่นจะหอมมาก และรสชาดดีกว่า เพราะมีกำลังอัดน้ำร้อนผ่านผงกาแฟมาจากด้านล่าง ไม่มีกลิ่นกระดาษเหมือนใช้ filter กระดาษ กาต้มแบบนี้นิยมใช้กันในยุโรปอย่างมาก คู่นี้มาจากเยอรมัน
ผม ไม่ชอบหม้อต้มกาแฟไฟฟ้าแบบทันสมัย เพราะดูมันไม่เหมือนบรรยากาศคาวบอยเท่าไร เครื่องมือทำกาแฟแบบที่ผมใช้นี้ มันชวนให้นึกถึงบรรยากาศกลางป่าเขา และหนังคาวบอยดี อีกอย่าง ทำให้การกินกาแฟมันต้องลงทุนลงแรงมากขึ้น ถ้าไม่อยากกินจริงๆ ก็จะไม่ทำ เป็นการลดปริมาณกาแฟที่กินประจำวันให้น้อยลงได้
และถ้าใครเคยกินอย่างนี้แล้วละก้อ จะรู้ว่า เนสกาแฟมันช่างรสชาดแย่แค่ไหน
อยากเห็นวิธีทำกาแฟโดยใช้หม้อ Moka Pot ไปดูที่ link ข้างล่างนี้ครับ
http://www.roytawan.com/topic/view.php?id=24
ประวัติของมันเขาเขียนได้ดีมาก ขออนุญาตเอามาให้อ่านกันบางส่วน ดังนี้
MOKA POT มีมาตั้งแต่สมัยการเปลียนแปลงทางสังคม เทคโนโลยี่ และทางเศษฐกิจจากลัทธิฟาสซิสต์ (fascism) ในอิตาลี ระหว่างปี ค.ศ. 1930 และกาแฟกับหม้อต้มอลูมิเนียม ถือว่าเป็นความทันสมัยที่สุดในสมัยนั้น เนื่องจากความสะดวก น้ำหนักเบา พกพาง่าย และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยของผู้ชายในสมัยนั้น ที่ต้องการค้นหารูปแบบการใช้ชีวิตแบบใหม่ของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ
กาแฟ ถูกขนานว่าเป็นเครื่องดื่มระดับชาติในยุโรป ตั้งแต่ระหว่างการเริ่มต้นของศตวรรษที่20 ซึ่งเป็นยุคที่โลหะและอลูมิเนียม เฟื่องฟู ในขณะนั้น Alfonso Bialetti กลับจากฝรั่งเศส และเขาได้ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมในอิตาลี จวบจนปี ค.ศ. 1918 เขาได้มีโรงงานกลึงโลหะเป็นของตนเอง และในปี 1933 Alfonso Bialetti นักประดิษฐ์ได้ประดิษฐ์ประดอยเครื่องชงเอสเพรสโซแบบ Aluminum Stovetop espresso coffee makerจากวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมขึ้นเป็นครั้งแรก และนี่คื่อเครื่องชงกาแฟแบบ MOKA ที่มีใช้กัน 90 % ของทุกบ้านในอิตาลี และถูกบันทึกไว้ในหนังสือกินนิสบุ๊ค (Guinness Book of Records) ไว้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของอิตาลีอย่างแท้จริง ครับ... นั่นก็เป็นประวัติคร่าวๆ ของเครื่องชงเอสเพรสโซ แบบโมก้าพอร์ท (MOKA Pot) เกร็ดเล็กๆ อีกเรื่องนึง คือช่วงสงครามทหารมักจะมีเจ้า MOKA Pot ติดตัวไปด้วย หากใครเคยดูหนังสงครางของทางยุโรบอาจจะเคยเห็นนะครับ เรียกว่าเอาใช้งานภาคสนามได้เลย เหมาะสำหรับพกติดตัวเวลาไปตั้งแคมป์ท่องเที่ยวกัน เปลี่ยนจากเตาไฟฟ้าเป็นเตาแก๊สสนาม ก็ได้เอสเพรสโซหอมๆ ไว้กระแทกปากยามเช้าที่สดชื่นทามกลางธรรมชาติ ได้เป็นอย่างดี.... แล้วอย่างนี้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการผจญภัย กางเต้นท์นอนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะไม่ขวนขวายหา MOKA Pot มาติดตัว สักตัวเชียวหรอครับ
ข้อควรระวังในการใช้ MOKA POT
1. อย่าใส่น้ำเกินระดับเซฟตี้วาล์ว
2. ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสส่วนที่เป็นโลหะ โดยตรง เพราะจะทำให้มือพองได้
3. เมื่อชงกาแฟเสร็จแล้ว และรินกาแฟใส่ถ้วยหมด ต้องทิ้งไว้ให้เย็นก่อนจึงนำไปทำความสะอาด
4. ต้องใช้กาแฟที่บดหยาบๆ ถ้าใช้กาแฟบดละเอียดจะทำให้มีผงกาแฟขึ้นไปปนอยู่ในน้ำกาแฟ
TIP & Trick
- MOKA POT สามารถนำไปใช้กับเตาได้ทุกชนิด ดังนั้นจึงสามารถนำติดตัวไปท่องเที่ยวได้ โดยอาจจะก่อกองไฟเล็กๆ มาต้มกาแฟ หรือใช้เตาสนามที่มีขายกันทั่วไป
- ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม มีความทนทาน ไม่แตก แม้ทำหล่น และชงกาแฟคั่วบดได้หอมมาก
- สามารถใช้กับกาแฟโบราณ โอเลี้ยง และชาแดงได้ครับ โดยที่รสชาติดีมาก (เท่าที่เห็น กาแฟโบราณขายเป็นถุงๆ จะหาซื้อง่ายและบดแบบหยาบครับ)
เ
< ย้อนกลับ |
---|